Thailand’s New Cannabis Prescription Law (2025) : What You Need to Know

Thailand’s New Cannabis Prescription Law (2025) : What You Need to Know

Thailand’s New Cannabis Prescription Law (2025): What You Need to Know

 

Why a Cannabis Prescription Is Now Required in Thailand

 

In June 2025, Thailand’s Ministry of Public Health issued a significant update to its cannabis regulations. Under the new Herbal Controlled Substances Regulation (Cannabis) B.E. 2568, cannabis flower (bud) has been reclassified as a controlled herbal product, meaning it is now illegal to buy, possess, or use without a cannabis prescription issued by a licensed medical professional.

This change marks a return to stricter cannabis oversight, especially after several years of relative freedom following decriminalization in 2022. The regulation aims to ensure medical cannabis is used responsibly and only for legitimate health purposes.

 

What Does the Law Say?

 

The new regulation clearly states that cannabis flower is now a controlled part of the plant. It can only be sold or used by individuals who:

  • Hold a valid cannabis prescription

  • Obtain cannabis from licensed clinics or dispensaries

  • Are treated by authorized medical professionals

The law also prohibits recreational cannabis use and imposes penalties for unauthorized possession or use.

 

How to Get a Cannabis Prescription in Thailand (Easily)

 

If you need medical cannabis, the good news is that getting a cannabis prescription in Thailand is easier than ever.

With digital healthcare platforms like KondeeDoctor.com, you no longer need to wait in line at a hospital or search for a doctor yourself. Everything can be done online—from your first registration to receiving a valid cannabis prescription.

Why Choose KondeeDoctor.com?

 

  • 100% online process

  • Licensed doctors, fully compliant with Thai regulations

  • Fast consultation and certificate approval

  • Nationwide access—available in Bangkok and throughout Thailand

  • Tele-consult or visit a clinic near you

Whether you need a cannabis prescription in Bangkok, Chiang Mai, or anywhere in Thailand, KondeeDoctor.com helps you do it quickly, safely, and legally.

Who Can Prescribe Medical Cannabis?

 

Only the following are authorized to issue a cannabis prescription in Thailand:

  • Licensed general physicians

  • Thai Traditional Medicine practitioners

  • Thai Integrative Medicine professionals

  • Certified local healers

KondeeDoctor.com connects you directly with these licensed professionals for a smooth and trustworthy experience.

 

What Conditions Qualify?

 

Cannabis prescriptions are commonly issued for:

  • Chronic pain

  • Cancer-related symptoms

  • Anxiety or insomnia

  • PTSD

  • Parkinson’s or epilepsy

Not sure if you’re eligible? KondeeDoctor.com offers free pre-screening and guidance to see if cannabis may help your condition.

 

What Happens If You Use Cannabis Without a Prescription?

 

Using or buying cannabis flower without a prescription is now illegal in Thailand. Individuals who violate this law may face legal consequences, including fines or imprisonment.

Avoid all legal risks by using KondeeDoctor.com to get your cannabis prescription the right way—with medical oversight and full compliance with the 2025 regulation.

 

Final Thoughts

 

The updated law reflects Thailand’s commitment to promoting safe and regulated use of cannabis for medical purposes only. While this brings tighter restrictions, it also opens the door for better access to care—if you follow the proper steps.

Thanks to platforms like KondeeDoctor.com, getting a cannabis prescription in Thailand is no longer difficult or confusing. You can complete the process online in just a few steps, speak with a certified doctor, and receive everything you need to legally access medical cannabis.

กัญชาเสรีเป็นอดีต? “กัญชาการแพทย์เท่านั้น”ผลกระทบ & ทางออกที่สายเขียวต้องรู้

กัญชาเสรีเป็นอดีต? “กัญชาการแพทย์เท่านั้น”ผลกระทบ & ทางออกที่สายเขียวต้องรู้

กัญชาเสรีเป็นอดีต? “กัญชาการแพทย์เท่านั้น”
ผลกระทบ & ทางออกที่สายเขียวต้องรู้

สรุปกฎหมายใหม่ กัญชาการแพทย์เท่านั้น

ไทยหวนกลับมาคุมเข้มกัญชาอีกครั้ง! หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม ประกาศสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 กำหนดให้ขายช่อดอกได้เฉพาะ ผู้มีใบสั่งแพทย์ และจำกัด ไม่เกิน 30 กรัม/คน/เดือน ใครได้รับผลกระทบ? มีทางเลือกอะไรบ้าง? มาดูสรุปครบจบสไตล์ Kondee420 กันเลย

สรุปกฎหมายใหม่ : ใช้ได้ 30 กรัม/เดือนเท่านั้น

  1. ใบสั่งแพทย์คือพาสปอร์ต – ร้านกว่า 18,000 แห่งต้องขายให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งแพทย์ พร้อมเก็บบันทึกการขายไว้ตรวจสอบ
  2. จำกัดปริมาณ 30 กรัม/เดือน – เทียบเท่าใช้วันละ ~1 กรัม หากใช้มากกว่านี้ต้องกลับมาพบแพทย์ทุก 30 วันเพื่อประเมินใหม่
  3. ห้ามโฆษณา-ห้ามสูบในร้าน – ช่อดอกถือเป็นสมุนไพรควบคุม 100 % การโฆษณา–จัดโปรเด็ดใส่ขนม เยลลี่ ฯลฯ ไม่ได้อีกต่อไป
  4. โทษแรงขึ้น – ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท และ/หรือจำคุก 1 ปี (อาจเพิ่มโทษในอนาคต)

ใครบ้างได้รับผลกระทบ?

🌿 ผู้ใช้สายสันทนาการ

ไม่สามารถเดินเข้าร้านซื้อช่อดอกได้อีกต่อไป — เว้นแต่จะมีใบสั่งแพทย์ การหาซื้อใต้ดินหรือใช้ใบสั่งปลอมเสี่ยงโดนคุก & ปรับหนัก

🏪 ผู้ประกอบการ (ร้านกัญชา)

ฐานลูกค้าสันทนาการหายวับ ร้านต้องปรับตัวเป็น คลินิกกึ่งคาเฟ่ มีแพทย์ประจำออกใบสั่ง ไม่งั้นเสี่ยงถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันที

🩺 ผู้ป่วย & วงการแพทย์

ระบบใหม่เพิ่มความปลอดภัย – แพทย์สั่งจ่ายได้แม่นยำขึ้น แต่ผู้ป่วยอาจต้องเสียเวลา/ค่าใช้จ่ายมาพบแพทย์ทุกเดือน ปัจจุบันมี แพทย์แผนไทย ≈ 30,000 คน ที่ออกใบสั่งได้

ทางออก : “อบ” แทน “สูบ”

การเผาไหม้ = ควัน + ทาร์ + สารพิษ 🌫️ การ อบไอสมุนไพรด้วยเครื่องอบ (Dry-Herb Vaporizer) ให้ไอสะอาด กลิ่นชัด ประหยัดดอกกว่าเดิมหลายเท่า

  1. ใบสั่งแพทย์คือพาสปอร์ต – ร้านกว่า 18,000 แห่งต้องขายให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งแพทย์ พร้อมเก็บบันทึกการขายไว้ตรวจสอบ
  2. จำกัดปริมาณ 30 กรัม/เดือน – เทียบเท่าใช้วันละ ~1 กรัม หากใช้มากกว่านี้ต้องกลับมาพบแพทย์ทุก 30 วันเพื่อประเมินใหม่
  3. ห้ามโฆษณา-ห้ามสูบในร้าน – ช่อดอกถือเป็นสมุนไพรควบคุม 100 % การโฆษณา–จัดโปรเด็ดใส่ขนม เยลลี่ ฯลฯ ไม่ได้อีกต่อไป
  4. โทษแรงขึ้น – ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท และ/หรือจำคุก 1 ปี (อาจเพิ่มโทษในอนาคต)

→ อ่านเพิ่ม: ทำไมการอบถึงช่วยคุมปริมาณได้ดีกว่า

เครื่องอบแนะนำจาก Kondee420

XMAX Starry 4

XMAX Starry 4

ฮีตเร็ว 20 วินาที ปรับอุณหภูมิทะลุ 240 °C เล่นได้ทั้งสมุนไพร & concentrates

ดูสินค้า
XMAX V3 Pro

XMAX V3 Pro

ห้องอบสเตนเลส + โหมดเซสชัน & ออนดีมานด์ ประหยัดดอกสุด ๆ

ดูสินค้า
Crafty Plus

Crafty+

Hybrid Heating จาก Storz & Bickel ไอเนียน นุ่ม ระดับการแพทย์

ดูสินค้า
Mighty

Mighty

แบตฯ อึด จ่ายไอนุ่มสม่ำเสมอ เหมาะทั้งผู้ป่วย & สายจริงจัง

ดูสินค้า
Venty

Venty

รุ่นใหม่ล่าสุด ลมแรง 20 ลิตร/นาที ควบคุมผ่าน Bluetooth ได้

ดูสินค้า

เปลี่ยนมาดูแลสุขภาพด้วยเครื่องอบสมุนไพรวันนี้ ช้อปออนไลน์ & ส่งด่วนทั่วไทยที่ Kondee420.com

Only @ Kondee’s 420 – Enjoy the moment 🌿
📌 House of Smoke ลาดพร้าววังหิน 93
🟢 Facebook.com/kondee420 | 🟡 Line: @kondee420
🔴 www.kondee420.com | 📸 Instagram @kondee420 | 🎬 YouTube @kondee420
5 เหตุผลที่ทำให้ Starry 4 เหนือกว่า V3 Pro

5 เหตุผลที่ทำให้ Starry 4 เหนือกว่า V3 Pro

5 เหตุผลที่ทำให้ Starry 4 เหนือกว่า V3 Pro

5 เหตุผลที่ทำให้ Starry4 เหนือกว่า V3 Pro
  1. อุณหภูมิทะลุ 240 °C – เล่นได้ทั้งสมุนไพร & concentrates Starry 4 ปรับได้ 100-240 °C (212-464 °F) ส่วน V3 Pro ไปสุดราว 220 °C
  2. Airflow Slider ปรับฟีลสูบได้ทันใจ มีคันโยกเลื่อนลมใต้หน้าจอ—จิบกลิ่นเบา ๆ หรือแน่นแบบบ้องก็ได้ (V3 Pro ต้องใช้นิ้วปิดรู)
  3. โบลใหญ่ 0.25-0.4 g – แชร์เพื่อนได้ยาว ๆ ห้องอบ conduction จุสมุนไพรได้เกือบเท่าตัว V3 Pro (≈ 0.15 g)
  4. Mouthpiece Zirconia เย็นคอ ฝาแม่เหล็ก zirconia กระจายความร้อนดี ลดควันร้อนบาดคอ
  5. แถม Dosing Capsule + ตั้งเวลา 4 / 6 / 10 นาที พรีโหลดแคปซูล ถอดเทเศษง่าย ปรับ Session Timer ได้ยืดหยุ่นกว่า

เหมาะกับใคร?

  • มือใหม่ — อยากได้เครื่องอบใช้ง่าย ซื้อแล้วจบ
  • สายชิล / สายแชร์ — โบลใหญ่ ปรับฟีลสูบหลากหลาย
  • ควันหนา-ร้อน & สายแวกซ์ — ต้องการอุณหภูมิสูง > 430 °F

ถ้าคุณเน้น micro-dose on-demand V3 Pro ยังตอบโจทย์
แต่ถ้าอยากได้ความคุ้มแบบ “ครบทุกอย่างในเครื่องเดียว”
ปีนี้ Starry 4 คือคำตอบครับ ✅

XMAX Starry 4

XMAX Starry 4

฿3,190

ซื้อเลย
Arizer Solo III vs Solo III V2.0 – อัปเกรดใหม่ คุ้มไหม? รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?

Arizer Solo III vs Solo III V2.0 – อัปเกรดใหม่ คุ้มไหม? รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?

ถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องอบสมุนไพรแบบพกพาคุณภาพสูง Arizer Solo III คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในตลาด และตอนนี้ก็มีรุ่นใหม่ Arizer Solo III V2.0 ที่อัปเกรดฟีเจอร์ให้ใช้งานสะดวกขึ้น โดยยังคงจุดแข็งเดิมเอาไว้ครบถ้วน

บทความนี้จะพาคุณ:

  • เปรียบเทียบ Solo III รุ่นเดิม vs V2.0 แบบชัดเจน
  • เจาะลึกฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดของ Solo III V2.0
  • แนะนำว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด

เปรียบเทียบ Solo III กับ Solo III V2.0 แบบชัด ๆ

คุณสมบัติSolo III รุ่นเดิมSolo III V2.0
พอร์ตชาร์จหัวเฉพาะของ ArizerUSB-C PD (ชาร์จเร็ว)
ล็อกหน้าจอปิดไม่ได้ปิดได้จากเมนู
โปรไฟล์ On-Demand5 แบบ3 แบบ (ใช้ง่ายกว่า)
หน้าจอดำ-ขาวขาว-เขียว อ่านง่าย
Residual Heat Meterไม่มีมี แสดงความร้อนที่ค้าง
รองรับ water pipeได้ได้ + หน้าจอกลับอัตโนมัติ
เวลาการใช้งานแบตฯ~120 นาทีสูงสุด ~180 นาที
ความคุ้มค่า✅ ราคาดี✅ ความสะดวกจัดเต็ม

ดีไซน์ใหม่ สี Sea of Green – สวย เด่น ใช้งานง่ายขึ้น

Solo 3 V2.0 มาพร้อมสีใหม่ “Sea of Green” ให้ความรู้สึกทันสมัยและอ่านค่าหน้าจอได้ง่ายกว่าสี Intergalactic รุ่นเดิม พร้อมเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอเป็นขาว-เขียว ทำให้ดูสะอาดตาขึ้นอย่างชัดเจน

Arizer Solo III V2.0 Sea of Green

USB-C PD ชาร์จเร็ว + ใช้งานระหว่างชาร์จได้

การเปลี่ยนเป็นพอร์ต USB-C PD ช่วยให้ใช้งานสะดวกกว่าเดิมมาก สามารถใช้ที่ชาร์จทั่วไปหรือ power bank ได้ และยังรองรับ pass-through charging คือ ชาร์จไป ใช้งานไปได้ทันที

ระบบทำความร้อนทันใจ พร้อมเลือกโหมดใช้งานได้

Solo III V2.0 รองรับทั้งโหมด:

  • Session Mode – อบยาวแบบต่อเนื่อง
  • On-Demand Mode – ใช้เฉพาะจังหวะที่ต้องการ

อุ่นเครื่องเร็วเพียง 5 วินาที ไอก็เริ่มออกทันที

ฟีเจอร์ใหม่ที่เน้น “ใช้งานจริง”

  • เปิด/ปิด Lock Screen ได้ตามต้องการ
  • หน้าจอกลับอัตโนมัติเมื่อเสียบกับ water pipe
  • ปรับเวลา session ได้ทันที (5, 10 หรือ 15 นาที)
  • มี Residual Heat Meter บอกความร้อนที่ค้างในเตา

อินเทอร์เฟซปรับใหม่ ใช้ง่ายขึ้น

เมนูปรับปรุงใหม่ ใช้งานง่าย ลดการกดหลายครั้ง พร้อมพรีเซ็ตได้ 3 แบบ แยกตามโหมด:

  • Session Mode: ตั้งอุณหภูมิ
  • On-Demand Mode: ตั้งอุณหภูมิ + เวลา

คุณภาพไอระดับพรีเมียม – กลิ่นชัด ไอหนา

  • ระบบ glass pod เหมือนเดิม สมุนไพรไม่สัมผัสโลหะ
  • ให้ไอสะอาด รสชาติชัดเจน ไม่ไหม้
  • เตาออกแบบใหม่: ร้อนเร็ว ไหลแรง ใช้กับท่อน้ำได้สบาย

แนะนำ: ใช้กับ water pipe ที่อุณหภูมิ 410°F ขึ้นไป เพื่อไอที่แน่นและยังได้รสครบ

อุปกรณ์เสริมในกล่อง – ครบพร้อมใช้งาน

  • หลอดแก้วขนาดปกติ + ขนาด XL
  • ข้อต่อ water pipe หลากขนาด
  • แปรงทำความสะอาด, สายชาร์จ และอุปกรณ์พื้นฐานครบชุด

สรุป: Arizer Solo III V2.0 – อัปเกรดเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนประสบการณ์ใหญ่

ถ้าคุณใช้ Solo III รุ่นเดิมอยู่ แล้วอยากได้ความสะดวกเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนวิธีใช้งานเดิม V2.0 คือคำตอบ

และถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องอบระดับพรีเมียม ใช้งานง่าย ไอรสดี และคุ้มค่าในระยะยาว Arizer Solo III V2.0 ก็ตอบโจทย์ครบถ้วน

พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่
www.kondee420.com

รวมเครื่องอบสมุนไพร งบไม่เกิน 5 พัน

รวมเครื่องอบสมุนไพร งบไม่เกิน 5 พัน

5 เครื่องอบสมุนไพรในงบไม่เกิน 5,000 บาท

หากคุณกำลังมองหา เครื่องอบสมุนไพร ที่มีราคาคุ้มค่าและใช้งานได้ดี ในงบ ไม่เกิน 5,000 บาท บทความนี้จะแนะนำ 5 รุ่นยอดนิยม ที่ให้ทั้งคุณภาพ ความทนทาน และฟังก์ชันที่เหมาะกับการใช้งานจริง โดยแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่น ระบบทำความร้อน และปริมาณสมุนไพรที่รองรับแตกต่างกัน 

เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานของตัวเอง มาดูรายละเอียดของแต่ละรุ่นกันเลย!


 

1. XMAX V3 Pro

  • ระบบทำความร้อน: Convection (พาความร้อน)
  • ปริมาณสมุนไพรที่ใส่ได้ต่อครั้ง: ประมาณ 0.15 กรัม
  • ราคา: 2,890 บาท (จากราคาปกติ 3,990 บาท)
  • จุดเด่น:
    ✅ สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 100°C ถึง 220°C
    ✅ มีโหมดการใช้งานทั้งแบบ Session Mode และ On-Demand Mode
    ✅ แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ ความจุ 2,600 mAh

🔹 เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องอบสมุนไพรที่ให้รสชาติชัดเจนและสามารถปรับอุณหภูมิได้ละเอียด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XMAX V3 Pro (CLICK)

2. XMAX Starry 4

  • ระบบทำความร้อน: Conduction (นำความร้อน)
  • ปริมาณสมุนไพรที่ใส่ได้ต่อครั้ง: ประมาณ 0.2 กรัม
  • ราคา: 3,150 – 3,490 บาท
  • จุดเด่น:
    ทำความร้อนได้ไว พร้อมใช้งานในไม่กี่วินาที
    ✅ ดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก
    ✅ ปากสูบทำจาก เซรามิกเซอร์โคเนีย ทนทานและให้รสชาติที่ดี
    ✅ แบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh

🔹 เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องอบสมุนไพรที่ คุ้มค่า ใช้งานง่าย ทำความร้อนได้ไว และทนทาน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XMAX Starry 4 (CLICK) 

3. XMAX V3 NANO

    • ระบบทำความร้อน: Hybrid (ผสมผสานระหว่าง Conduction และ Convection)
    • ปริมาณสมุนไพรที่ใส่ได้ต่อครั้ง: ประมาณ 0.15 กรัม
    • ราคา: 1,790 บาท (จากราคาปกติ 1,990 บาท)
    • จุดเด่น:
      ✅ ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
      ✅ ปากสูบแบบแก้ว ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นที่ดี
      ✅ ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

    🔹 เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องอบสมุนไพรขนาดเล็ก ราคาย่อมเยา และใช้งานสะดวก ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XMAX V3 NANO

4. G-PEN DASH

  • ระบบทำความร้อน: Conduction (นำความร้อน)
  • ปริมาณสมุนไพรที่ใส่ได้ต่อครั้ง: ประมาณ 0.25 กรัม
  • ราคา: 2890-2,990 บาท
  • จุดเด่น:
    ✅ ขนาดเล็ก ดีไซน์มินิมอล
    ✅ ปรับไฟได้ 3 ระดับ พร้อมแสงไฟแสดงสถานะที่ สีสันสวยงาม
    ✅ ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับ ผู้เริ่มต้น

🔹 เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องอบขนาดเล็ก ปรับไฟได้ สีสันสวยงาม และราคาย่อมเยา ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ G-PEN DASH

5. PAX Mini

  • ระบบทำความร้อน: Conduction (นำความร้อน)
  • ปริมาณสมุนไพรที่ใส่ได้ต่อครั้ง: ประมาณ 0.25 กรัม
  • ราคา: 4,900 บาท (จากราคาปกติ 5,900 บาท)
  • จุดเด่น:
    ✅ ดีไซน์หรูหรา เรียบง่ายและพรีเมียม
    ✅ ใช้งานง่ายด้วย ปุ่มเดียว
    ✅ ขนาดเล็ก พกพาสะดวก

🔹 เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเครื่องอบสมุนไพรที่ มีดีไซน์สวยงาม พรีเมียม และใช้งานง่าย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PAX MINI

สรุป: เลือกเครื่องอบสมุนไพรให้เหมาะกับคุณ

XMAX V3 Proเหมาะกับผู้ที่ต้องการรสชาติที่ชัดเจน และปรับอุณหภูมิได้ละเอียด


XMAX Starry 4เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องที่พกพาสะดวก ใช้งานง่าย ทำความร้อนได้ไว


XMAX V3 Nanoเหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็ก ราคาดี และใช้งานง่าย


G-Pen Dashเหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องอบขนาดเล็ก ปรับไฟได้ สีสันสวยงาม และราคาย่อมเยา


PAX Miniเหมาะกับผู้ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ และต้องการเครื่องที่ใช้งานง่าย

🔥 เครื่องอบสมุนไพรเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในงบไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ว่าคุณจะเน้นเรื่อง รสชาติ, ขนาด, ราคา หรือดีไซน์ ก็สามารถเลือกเครื่องที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณได้

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น! 🚀